วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

ค้นหาชีวิตนอกพิภพ #2

จักรวาลเริ่มจากไฮโดรเจน --> ไฮโดรเจน สร้างดาวฤกษ์ --> ดาวฤกษ์ได้ก่อกำเนิดธาตุต่าง ๆ ที่เราใช้ดำรงชีวิต ออกซิเจนในอากาศ แคลเซียมในกระดูก ทุก ๆ สิ่งมาจากดวงดาว


ทางด้านการกำเนิดระบบสุริยะ
จากบริเวณใจกลาง ทั้งดาวฤกษ์ และโลก ที่กำลังกำเนิดขึ้น จะมีกลุ่มหมอกมหึมา ห่อหุ้มละอองดวงดาวเอาไว้ และในสภาวะเช่นนี้ ทำให้ สุริยะจักรวาลของเราได้เกิดมา ครับ ทุกอย่างพร้อม รอแต่เวลาครับ จากกลุ่มก๊าซก่อตัวรวมกันเป็นกระจุกน้อย และใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งกระจุกใหญ่ขึ้น มันก็ยิ่งหนาแน่นขึ้น กลายเป็นหมู่ของกระจุกดาว มีมวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่างก็หมุนตัวรอบกันและกัน ที่บริเวณใจกลางของกลุ่ม กลุ่มหมอกเมฆของก๊าซ และกลุ่มควัน เริ่มก่อรูปร่างขึ้น ลูกกลมขยายใหญ่ขึ้น มันดูดทุกสิ่งทุกอย่าง และมันก็ร้อนขึ้นทุกที จนกระทั่งดาวฤกษ์ชุดใหม่ถือกำเนิด จนกลายเป็นดาวอาทิตย์ในที่สุดครับ กลุ่มก๊าซและฝุ่นละอองที่เหลือถูกเหวี่ยงออกมา และกลายเป็นดาวเคราะห์น้อยใหญ่ มันดูดสิ่งที่ใกล้เคียงอีกหลายล้านปี จนกลายเป็นดาวเคราะห์ รวมถึงโลกเราด้วย

อันที่จริง เราก็มีแรงดึงดูดครับ แต่ ตัวเรานั้นเบาซะเหลือเกิน จนไม่รู้สึกว่ามีแรงดึงดูด ถ้ามือประกบใกล้ ๆ กัน มันก็จะมีแรงดึงดูดซึ่งกันและกันอยู่ แต่เราไม่รู้สึกครับ ซึ่งต่างจากโลก และพลังมหาศาลของดวงอาทิตย์ ที่ต่างดึงดูดซึ่งกันและกัน

กำเนิดโลกเสร็จแล้วครับ แล้วตัวเราหละ มาจากไหนกัน
มีหลายความคิดเช่นกัน ก็คือ ในท้องทะเล ก้อนหินแร่ธาตุ รวมถึงชีวิตจากจักวาลอันไกลโพ้น และมาที่นี่ โดยติดมากับดาวหาง ก็เป็นได้ครับ นี่อาจเป็นทฤษฏีที่โลดโผนที่สุด นักวิทยาศาสตร์หลายคนคิดว่าชีวิต บนโลกเกิดขึ้นเร็วมาก จนอาจเป็นไปได้ว่าที่แท้มัน มาจากที่อื่น ดาวหาง อาจกำคำตอบเอาไว้ ด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมานี้ มีชีวิตขั้นพื้นฐานอาศัยอยู่ ชีวิตก็สามารถแพร่กระจายไปทั่วจักรวาล

หากทฤษฏีนี้เป็นจริง ดาวหางพุ่งจากอวกาศ มุ่งหน้าสู่โลก ที่ซึ่งอุดมสมบูรณ์ มีทะเลและชั้นบรรยากาศ เมื่อตกสู่พื้นโลก บรรพบุรุษต่างดาวของเรา กระเด็นออกไปทั่วพื้นพิภพ จากดาวเคราะห์ซึ่งไร้ชีวิต ก็เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

ทุกสิ่งที่ก่อมาเป็นเรา มาจากดาวดวงอื่น กว่าหมื่นล้านปีมาแล้วครับ แล้วถ้ามีคนถามว่าคุณมาจากไหน บอกไปเลยนะครับว่า คุณมาจากนอกอวกาศ เกิดจากใจกลางของดวงดาว

ในจักรวาลมีดวงดาวหลายล้านดวง มีดาวเคราะห์อีกพัน ๆ ล้านดวง มียาวนานกว่า 12,000 ล้านปีมาแล้ว ครับ และถ้าชีวิตเกิดขึ้นบนโลกนี้ได้ มันก็ต้องเกิดกับดาวดวงอื่นได้ จริงไหมครับ ในห้วงอวกาศนี้ ยังมีชีวิตอื่นอีกหรือไม่ มีเพียงเราที่เดียวดายอย่างงั้นหรือ ในจักวาลอันเวิงว้าง นี้

เราต่างก็สงสัยกันว่า เราอยู่เดียวดายในจักรวาลอย่างนั้นเหรอครับ หรือว่าสักวันหนึ่งเราอาจพบกับ มนุษย์ต่างดาว จากจักรวาลอันไพศาลนี้ จะมีเพียงเราบนโลกเพียงลำพัง แต่เราก็รู้ดีอยู่แล้วว่า มันไม่มีแต่เรา โลกเรา นี้ มีชีวิตอื่น มากกว่า 10 ล้านชนิด เฉพาะบนโลกเท่านั้น นะครับ บ้างก็ธรรมดา บ้างก็ แสนประหลาด แล้วดาวเคราะห์ดวงอื่นหละ มีสิ่งมีชีวิตที่ใคร่รู้ เหมือนพวกเรา บ้างหรือครับ

และถ้าชีวิตที่ทรงปัญญาเกิดบนโลกนี้ได้ แล้วที่อื่นจะไม่ได้เหรอครับ จากจำนวนของดวงดาวแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะคำนวณจำนวนดาวฤกษ์ทั้งหมดครับ จุดสว่าง แต่ละจุดนั้น อาจเป็นหนึ่งแกแลกซี มีดวงดาวนับพันล้านดวงอัดแน่นอยู่แต่ละจุด ถ้าเรา หยิบทรายมาหนึ่งกำมือ จะมีทรายสักกี่เม็ดกัน เป็นหมื่น เป็นแสน และทั้งหาดจะมีเม็ดทรายมากเท่าไหร่ แม้จำนวนจะมากมายมหาศาลเพียงใด และถ้าทรายแต่ละเม็ดเท่ากับดาวฤกษ์ ในอวกาศแล้ว ดาวฤกษ์ต่อเม็ดทรายแต่ละเม็ด ก็เหมือนกับดวงอาทิตย์ครับ และที่ใดมีดาวฤกษ์ที่นั่นย่อมมีดาวเคราะห์ครับ และที่ใดมีดาวเคราะห์ ที่นั่นก็อาจมีชีวิตด้วย และมันเกิดขึ้นแล้วที่นี่ครับ โลกเรานี่ไงครับ

ถ้าสิ่งมีชีวิต ซึ่งทรงภูมิปัญญา จากนอกโลกติดต่อมา แต่การจะได้ยินนั้น ต้องอาศัย หู ต้องมีหูที่ใหญ่มาก และนี่คือหูที่ใหญ่ที่สุดในโลก



นักวิทยาศาสตร์ทำงานเพื่อตอบคำถามนี้ ที่ว่าเราอยู่โดดเดี่ยวในจักรวาลจริงหรือไม่ ในโครงการ เซติ ภารกิจ ก็คือ ตรวจสอบดวงดาวในท้องฟ้า เพื่อหาสัญญาณจากมนุษย์ต่างดาว ซึ่งยังคงดำเนินงานมาจนถึงปัจจุบัน นักดาราศาสตร์จากเซติ มีหน้าที่ฟังรับสัญญาณจากนอกโลก ผ่านวิทยุสื่อสาร คลื่นวิทยุตัดผ่านกลุ่มก๊าซ วิทยุเป็นสื่อที่ ใช้งานง่าย สำหรับเรา และพวกเขาด้วย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม เขาก็คงใช้คลื่นวิทยุด้วยเป็นแน่

อวกาศมีดินแดนต่าง ๆ นับไม่ถ้วน จำนวนดาวฤกษ์ที่มีอยู่มหาศาล ทำให้เชื่อได้ยากที่จะทำให้โลกใบนี้ จะเป็นเพียงที่เดียวที่มีสิ่งมีชีวิต ที่รู้จักพัฒนาสร้างวิทยาการสื่อสาร



หลังจาก 10 ปีแรกของการค้นหา เซติ ยังคงไม่มีผลงานปรากฏ แต่ในปี 1977 บางสิ่งก็เกิดขึ้น คอมพิวเตอร์ตรวจพบสิ่งที่พวกเขาเฝ้าคอยมานาน คลื่นวิทยุที่ส่งมาจากดาวดวงอื่น จะใช่สัญญาณจากมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ และเมื่อพวกเขาเตรียมอุปกรณ์อื่นมาศึกษา สัญญาณนั้นก็หายไป และยังไม่สามารถอธิบายได้ มาจนถึงทุกวันนี้




การเสาะหาอันยาวนาน อาจทำให้หลาย ๆ คนถอดใจ ถ้าเราทำโครงการนี้ อีก 100 ปีแล้วไม่เจออะไร แม้ จะคนทำงานจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ โครงการนี้ ยังคงอยู่ แม้ว่า เซติ จะเชื่อมั่นเพียงใด แต่การสืบหามนุษย์ต่างดาว ต้องอาศัยเวลา เพราะดวงดาวที่เราค้นหานั้น มีอยู่มากมาย

ปัญหาก็คือ แกแลกซี่ มันใหญ่โตมากครับ ดวงดาวมากมาย การเสาะหามนุษย์ต่างดาว มันยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรด้วยซ้ำ แต่ความหวังคงไม่ริบหรี่นัก โดยเริ่มจากค้นหาสถานที่ ที่พวกเขาอาจอาศัยอยู่

ที่ฮาวาย มีกล้องโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นักวิทยาศาสตร์มาที่นี่ เพื่อค้นหาสิ่งที่ไม่เคยรู้ ที่พวกเขายังไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ นั่นคือดวงดาวที่โคจรอยู่รอดวงดาวอันไกลโพ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น